Day 7 : 30 Fallacies

Merry Christmas บางทีเราก็ตัวอย่างอะไรบางอย่างแล้วเราก็มารู้สึกเองว่ามันผิดเคยเป็นไปกันบ้างไหมครับวันนี้ผมอ่านบทความเชิงปรัชญาและได้ในยามของคำคำนึงมาลองมาใช้ให้อ่านกัน

Fallacy หมายถึง ข้อผิดพลาดหรือข้อบกพร่องในการโต้แย้งหรือเหตุผล ซึ่งอาจทำให้การโต้แย้งนั้นดูไม่น่าเชื่อถือหรือผิดพลาด มีหลายประเภทของ fallacy บางประเภทได้แก่:

  1. Ad Hominem: การโจมตีบุคคลแทนที่จะโจมตีเหตุผลหรืออาร์กิวเมนต์
  2. Straw Man: การบิดเบือนหรือทำให้อาร์กิวเมนต์ของฝ่ายตรงข้ามดูอ่อนแอกว่าที่เป็นจริง
  3. Appeal to Ignorance (Argumentum ad Ignorantiam): การอ้างว่าบางสิ่งเป็นจริงเพราะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเท็จ
  4. False Dilemma/Black and White Fallacy: การนำเสนอเพียงสองทางเลือกที่ขัดแย้งกัน โดยไม่พิจารณาทางเลือกอื่น
  5. Slippery Slope: การอ้างว่าเหตุการณ์เฉพาะจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ต้องการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
  6. Circular Reasoning (Begging the Question): การใช้อาร์กิวเมนต์ที่ระบุว่าสิ่งที่ต้องพิสูจน์นั้นเป็นจริงโดยไม่มีหลักฐานอื่น
  7. Hasty Generalization: การสรุปที่ทำจากข้อมูลไม่เพียงพอหรือตัวอย่างจำกัด
  8. Post Hoc Ergo Propter Hoc: การอ้างว่าเหตุการณ์หนึ่งเป็นสาเหตุของเหตุการณ์อื่นเพียงเพราะเกิดขึ้นก่อนหน้า
  9. Appeal to Authority (Argumentum ad Verecundiam): การอ้างอิงความเห็นของผู้มีอำนาจหรือผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่น่าเชื่อถือในเรื่องนั้นๆ
  10. Bandwagon Fallacy (Argumentum ad Populum): การอ้างว่าสิ่งหนึ่งเป็นจริงเพราะมีคนจำนวนมากเชื่อหรือทำตาม
  11. Red Herring: การนำเสนอเรื่องราวหรือข้อเท็จจริงที่ไม่เกี่ยวข้องเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบคำถามหรือเบี่ยงเบนความสนใจ
  12. Appeal to Emotion (Argumentum ad Passiones): การใช้อารมณ์เพื่อโน้มน้าวความคิดหรือความเชื่อของผู้ฟังแทนที่จะใช้เหตุผล
  13. False Cause: การสรุปว่ามีความสัมพันธ์สาเหตุ-ผลเพียงเพราะเหตุการณ์หนึ่งเกิดตามหลังเหตุการณ์อื่น
  14. No True Scotsman: การปรับเปลี่ยนเกณฑ์หรือขอบเขตของข้อเท็จจริงเพื่อรักษาอาร์กิวเมนต์จากการถูกโต้แย้ง
  15. Cherry Picking (Selective Evidence): การเลือกใช้ข้อมูลหรือหลักฐานที่สนับสนุนข้อโต้แย้งของตนเองโดยไม่คำนึงถึงข้อมูลที่ขัดแย้ง
  16. Ad Populum (Bandwagon Appeal): การโต้แย้งว่าสิ่งหนึ่งเป็นจริงเพราะมีคนจำนวนมากเชื่อหรือทำตาม
  17. Tu Quoque (You Too): การตอบโต้โดยการชี้ให้เห็นว่าผู้โต้แย้งทำสิ่งเดียวกันกับสิ่งที่เขาหรือเธอกำลังวิพากษ์วิจารณ์
  18. Appeal to Tradition (Argumentum ad Antiquitatem): การอ้างว่าสิ่งหนึ่งเป็นจริงหรือดีเพียงเพราะมีการปฏิบัติมาอย่างยาวนาน
  19. Appeal to Novelty (Argumentum ad Novitatem): การอ้างว่าสิ่งหนึ่งเป็นจริงหรือดีเพราะมันเป็นใหม่หรือทันสมัย
  20. Equivocation: การใช้คำที่มีหลายความหมายในอาร์กิวเมนต์เดียวกันอย่างกำกวมเพื่อหลอกลวงหรือเบี่ยงเบน
  21. False Analogy: การเปรียบเทียบที่ไม่เหมาะสมระหว่างสองสิ่งที่มีลักษณะแตกต่างกันอย่างมาก
  22. Moving the Goalposts: การเปลี่ยนเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ของอาร์กิวเมนต์เมื่อมันถูกคัดค้านหรือข้อโต้แย้งถูกตอบสนอง
  23. The Gambler’s Fallacy: การเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เป็นอิสระกันมีผลต่อกัน เช่น การคิดว่าการโยนเหรียญออกมาเป็นหัวหลายครั้งทำให้โอกาสที่จะออกก้อยในครั้งถัดไปสูงขึ้น
  24. Appeal to Consequences: การอ้างว่าสิ่งหนึ่งเป็นจริงหรือเท็จเพราะผลลัพธ์ที่ตามมานั้นดีหรือไม่ดี
  25. Composition Fallacy: การสรุปว่าสิ่งที่จริงสำหรับส่วนประกอบบางอย่างจะจริงสำหรับทั้งหมด
  26. Division Fallacy: การสรุปว่าสิ่งที่จริงสำหรับทั้งหมดจะจริงสำหรับส่วนประกอบแต่ละส่วน
  27. Genetic Fallacy: การตัดสินค่าของข้อโต้แย้งหรือความเชื่อโดยพิจารณาจากแหล่งกำเนิดหรือประวัติของมัน
  28. Moralistic Fallacy: การสรุปว่าถ้าบางสิ่งดูเป็นที่ต้องการหรือเป็นเรื่องของศีลธรรม มันจะต้องเป็นจริง
  29. Naturalistic Fallacy: การสรุปว่าสิ่งที่เป็นธรรมชาติหรือเกิดขึ้นตามธรรมชาติจะต้องดีหรือถูกต้อง
  30. Reification (Concretism, Hypostatization): การให้คุณลักษณะของสิ่งที่เป็นรูปธรรมหรือความเป็นจริงแก่ความคิดหรือแนวคิดที่เป็นนามธรรม

การเรียนรู้และระบุ fallacies เหล่านี้ในการสนทนาหรือการโต้แย้งช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.