Day 10 : The Romance of Three Kingdoms in HR world

ผมเขียนเรื่องนี้เมื่อหลายวันก่อนต่อมาก็จะเป็นการวิเคราะห์การจัดการบุคคลในแต่ละก๊กจาก “Romance of the Three Kingdoms” นั้นค่อนข้างซับซ้อนเนื่องจากเรื่องราวนี้เป็นผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และตำนาน แต่ละก๊กมีลักษณะการจัดการที่เป็นเอกลักษณ์:

  1. ก๊กเว่ย (Wei): นำโดยเจ้าเหลียงอ๋อง (Cao Cao) และลูกชายของเขา เน้นการจัดการที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพ มีการใช้กลยุทธ์ทางการทหารและการเมืองที่ซับซ้อนเพื่อรักษาอำนาจ
  2. ก๊กซือ (Shu): นำโดยขงเบ้ง (Liu Bei) มีการจัดการที่เน้นความภักดีและคุณธรรม เป็นก๊กที่มีการดูแลและสนับสนุนกันภายในอย่างดี มีนักรบและที่ปรึกษาที่มีความสามารถสูง
  3. ก๊กอู๋ (Wu): นำโดยสุนเจียน (Sun Quan) และพี่ชายของเขา มีการจัดการที่เน้นความสามารถทางทหารและการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นก๊กที่มีความเสถียรและรักษาอำนาจได้นาน

แต่ละก๊กมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน และวิธีการจัดการบุคคลของพวกเขาสะท้อนถึงลักษณะเฉพาะและปรัชญาของผู้นำแต่ละคน การศึกษาวิธีการจัดการเหล่านี้สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจีนในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี.

การวิเคราะห์จากมุมมองของ HR ในยุคปัจจุบันต่อตัวละครจาก “Romance of the Three Kingdoms” จะเน้นไปที่ความสามารถ, ภาวะผู้นำ, และการตัดสินใจที่เหมาะสมในสถานการณ์ต่างๆ ฉะนั้น เราจะเลือกตัวละคร 3 คนจากแต่ละก๊กพร้อมทั้งอธิบายถึงความเหมาะสมของพวกเขา โดยใช้ MBTI (Myers-Briggs Type Indicator) และ DISC :

ก๊กเว่ย (Wei): เจ้าเหลียงอ๋อง (Cao Cao)

  • ความเหมาะสม: เหลียงอ๋องเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และความสามารถทางกลยุทธ์ที่เหนือกว่า มีความเข้าใจในศักยภาพของบุคคลอย่างลึกซึ้ง
  • ENTJ (The Commander) มีลักษณะเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์, ทะเยอทะยาน, และมีทักษะการวางแผนที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของเหลียงอ๋องที่เป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมาย
  • Dominance (D) ตัวละครนี้แสดงความเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง, มีความทะเยอทะยาน, และมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมาย คุณลักษณะเหล่านี้สอดคล้องกับลักษณะของบุคลิกภาพประเภท Dominance ที่เน้นการควบคุมและผลลัพธ์
  • ตัวอย่างเหตุการณ์: การรวมตัวของนักปราชญ์ที่เรียกว่า “โครงการการเกณฑ์ทหาร” โดยเขาใช้นโยบายนี้เพื่อดึงดูดบุคคลที่มีความสามารถมาร่วมงาน

ก๊กซือ (Shu): จูก้วยหลี (Zhuge Liang)

  • ความเหมาะสม: จูก้วยหลีเป็นที่ปรึกษาที่มีความสามารถสูง มีความสามารถในการวางแผนและคาดการณ์สถานการณ์
  • INTP (The Logician) มักจะเป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์, ชอบทำความเข้าใจระบบที่ซับซ้อน, และมีความสามารถในการวิเคราะห์ ลักษณะเหล่านี้ตรงกับจูก้วยหลีที่เป็นนักคิดและมีทักษะในการวางแผนที่ยอดเยี่ยม
  • Conscientiousness (C) จูก้วยหลีเป็นตัวละครที่แสดงความเป็นนักคิด, มีการวางแผนอย่างละเอียด, และความรอบคอบในการตัดสินใจ คุณลักษณะเหล่านี้ตรงกับประเภท Conscientiousness ที่มุ่งเน้นในคุณภาพและความแม่นยำ
  • ตัวอย่างเหตุการณ์: การใช้กลยุทธ์ “เบื้องหลังผ้าม่าน” เพื่อหลอกศัตรูให้เชื่อว่ามีกองทัพอยู่เบื้องหลังผ้าม่าน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้จิตวิทยาทางทหาร

ก๊กอู๋ (Wu): จิวกัง (Zhou Yu)

  • ความเหมาะสม: จิวกังเป็นนายทหารที่มีความสามารถทั้งในด้านการทหารและการบริหาร
  • ESTJ (The Executive) มีคุณสมบัติของผู้ที่มีการจัดการที่ดี, ชอบความเป็นระเบียบ, และมีความสามารถในการนำ ลักษณะเหล่านี้สอดคล้องกับจิวกังที่มีความเป็นผู้นำและทักษะในการจัดการที่ยอดเยี่ยม
  • Influence (I) จิวกังมีความสามารถในการอิทธิพลต่อผู้อื่นและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนรอบข้าง ลักษณะเหล่านี้สอดคล้องกับบุคลิกภาพประเภท Influence ที่มุ่งเน้นในการสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์
  • ตัวอย่างเหตุการณ์: การวางแผนการต่อสู้ที่จุดปะทะแม่น้ำแดง โดยใช้กลยุทธ์ “หมอกไฟ” เพื่อหลอกล่อและทำลายกองทัพของก๊กเว่ย แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการวางแผนทางยุทธศาสตร์อย่างฉับไว

แต่ละตัวละครนี้แสดงให้เห็นถึงความเหมาะสมในด้านต่างๆ ที่เป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้นำและบุคลากรในแต่ละด้าน, ไม่ว่าจะเป็นการจัดการทหาร, การวางแผนกลยุทธ์, หรือการประเมินศักยภาพของบุคคล.

แผนกลยุทธ์ของฉันในการเลือกคนของแต่ละก๊กจาก “Romance of the Three Kingdoms” พิจารณาจากความต้องการและลักษณะเฉพาะของแต่ละก๊ก รวมทั้งภาวะผู้นำและบุคลิกภาพของผู้นำแต่ละคน:

ก๊กเว่ย (Wei) นำโดยเจ้าเหลียงอ๋อง (Cao Cao)

  • กลยุทธ์: เน้นการคัดเลือกบุคคลที่มีความทะเยอทะยาน, มีความสามารถทางกลยุทธ์, และสามารถปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างเข้มงวด
  • ความสำเร็จ: การสร้างกองทัพที่มีประสิทธิภาพและมีความภักดีต่อผู้นำ

ก๊กซือ (Shu) นำโดยขงเบ้ง (Liu Bei)

  • กลยุทธ์: เน้นการเลือกบุคคลที่มีความภักดี, มีจิตใจดี, และสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้
  • ความสำเร็จ: การสร้างกลุ่มผู้ติดตามที่มีความผูกพันและทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิผล

ก๊กอู๋ (Wu) นำโดยสุนเจียน (Sun Quan)

  • กลยุทธ์: เน้นการเลือกบุคคลที่มีความสามารถทางทหาร, มีความยืดหยุ่น, และสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดี
  • ความสำเร็จ: การมีกองทัพที่มีความคล่องตัวและสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี

คุณสมบัติของผม มีทักษะที่เหมาะสมกับหลายสถานการณ์ แต่การเลือกก๊กที่เหมาะสมสำหรับผมต้องพิจารณาถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละก๊กใน “Romance of the Three Kingdoms” ดังนี้:

  1. ก๊กเว่ย (Wei): เน้นการจัดการที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพ อาจไม่เหมาะสมสำหรับบุคคลที่ไม่ชอบการทำงานภายใต้ความกดดันหรือคาดหวังที่สูง
  2. ก๊กซือ (Shu): เน้นความภักดีและคุณธรรม อาจเป็นที่ที่เหมาะสมหากบุคคลนั้นสามารถปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับการทำงานเป็นทีมและการสนับสนุนซึ่งกันและกันได้
  3. ก๊กอู๋ (Wu): มีความยืดหยุ่นและมุ่งเน้นในการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ อาจเหมาะสมกับบุคคลที่มีทักษะในการจัดการและสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี

จากคุณสมบัติส่วนตัวของผม ดูเหมือนว่าก๊กอู๋ (Wu) อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ด้วยเหตุผลที่ว่าผมมีความยืดหยุ่นและมีทักษะการจัดการที่ดี สามารถเอาชนะความท้าทายในการทำงานและปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดี ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สอดคล้องกับลักษณะของก๊กอู๋. และในบริบทของการบริหารคนในก๊กอู๋ (Wu) จาก “Romance of the Three Kingdoms” ผมควรเป็น หลูเสี่ยว (Lu Xun) ซึ่งเป็นนายทหารและนักวางแผนกลยุทธ์ที่มีชื่อเสียงของก๊กอู๋ คุณลักษณะของหลูเสี่ยวที่ทำให้ปมเหมาะสมกับบุคคลที่คุณอธิบาย ได้แก่:

  1. ความยืดหยุ่นและการจัดการที่ดี: หลูเสี่ยวมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ และมีทักษะในการจัดการทรัพยากรและกำลังพลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. การเน้นผลลัพธ์มากกว่ากระบวนการ: เขาเป็นที่รู้จักในการให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ของการรบมากกว่าการยึดติดกับวิธีการที่เคร่งครัด นี่สอดคล้องกับการเน้นผลลัพธ์และการรับผิดชอบต่อการส่งมอบงาน
  3. ไม่ชอบการถูกกดดันหรือคาดหวังสูง: หลูเสี่ยวเป็นตัวละครที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในสภาวะที่ไม่มีความกดดันสูง และมีความสามารถในการตัดสินใจอย่างเป็นอิสระ
  4. ความสามารถในการเถียงและต่อรอง: ความสามารถของเขาในการอภิปรายและปกป้องมุมมองของตนเองเป็นสิ่งที่สำคัญในการวางแผนและการประชุมกับผู้นำอื่นๆ

หลูเสี่ยวจึงเป็นตัวละครที่สามารถแสดงถึงบุคลิกภาพและทักษะของบุคคลในสถานการณ์ของได้อย่างดี.

“Romance of the Three Kingdoms” เป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่าสำหรับการศึกษาในมุมมองของ HR (Human Resources) ด้วยเหตุผลหลายประการ:

  1. ความสำคัญของการเลือกบุคคลที่เหมาะสม: เรื่องราวนี้แสดงให้เห็นถึงการเลือกบุคคลที่มีความสามารถและทักษะที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบทบาท และการเลือกที่ผิดพลาดสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ดีได้
  2. การจัดการทีมและการสร้างความภักดี: การจัดการทีมและการสร้างความภักดีเป็นปัจจัยสำคัญในเรื่องนี้ ผู้นำต่างๆ แสดงการสร้างความภักดีและการบริหารทีมอย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ความหลากหลายของสไตล์การนำ: แต่ละก๊กและผู้นำแสดงสไตล์การนำที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การนำแบบเข้มงวดไปจนถึงการนำที่เน้นความภักดีและคุณธรรม การศึกษาเหล่านี้ช่วยในการเข้าใจว่าสไตล์การนำต่างๆ มีผลอย่างไรต่อการจัดการบุคคลและผลลัพธ์
  4. การตัดสินใจและการแก้ปัญหา: ผู้นำในเรื่องมักเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายและต้องทำการตัดสินใจที่สำคัญ การศึกษาวิธีที่พวกเขาจัดการกับปัญหาเหล่านี้สามารถให้บทเรียนเกี่ยวกับการตัดสินใจและการแก้ปัญหา
  5. การจัดการความขัดแย้งและการเจรจา: ในเรื่องมีการจัดการความขัดแย้งและการเจรจาอย่างมาก ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในงาน HR
  6. การพัฒนาและการฝึกอบรม: ความสามารถของตัวละครที่พัฒนาขึ้นผ่านการฝึกอบรมและประสบการณ์ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาและการฝึกอบรมในการบริหารคน

มุมมองของการจัดการบุคคลและแนวทางการเป็นผู้นำจากแต่ละก๊กในเรื่องราวนี้ ตั้งแต่การพิจารณาบุคลิกภาพของตัวละครตามแบบ MBTI และ DISC ไปจนถึงการวิเคราะห์ความแตกต่างของสไตล์การนำและการจัดการบุคคลของผู้นำแต่ละคน ในส่วนของก๊กเว่ย, ก๊กซือ, และก๊กอู๋, เราได้เห็นถึงลักษณะการนำที่หลากหลาย ตั้งแต่การเน้นความเข้มงวดและประสิทธิภาพ ไปจนถึงการเน้นความภักดีและคุณธรรม ความรู้ที่ได้จากการวิเคราะห์นี้ไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของจีนเท่านั้น แต่ยังให้บทเรียนที่สำคัญเกี่ยวกับการบริหารคนและการสร้างทีมในยุคปัจจุบัน

นอกจากนี้, การเจาะลึกเข้าไปในตัวละครและการเลือกบุคคลที่เหมาะสมสำหรับแต่ละก๊ก ช่วยให้เราเข้าใจถึงความสำคัญของการจับคู่ทักษะและบุคลิกภาพกับความต้องการขององค์กร ตัวอย่างเช่น การเลือกหลูเสี่ยวของก๊กอู๋ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของก๊กในเรื่องความยืดหยุ่นและการจัดการที่ดีนั้น เป็นตัวอย่างของการจับคู่ที่เหมาะสมระหว่างบุคคลกับบทบาทในองค์กร การศึกษา “Romance of the Three Kingdoms” จึงไม่เพียงแต่เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการจัดการบุคคลและการเป็นผู้นำในสถานการณ์ที่หลากหลาย.

ในตอนต่อไปของการสำรวจเรื่อง “Romance of the Three Kingdoms”, เราจะเข้าสู่โลกของการวางแผนกลยุทธ์ที่ซับซ้อนและละเอียดยิ่งขึ้น โดยจะพาคุณไปดำดิ่งในแนวทางและเทคนิคของการวางแผนกลยุทธ์ (Strategic Planning) ที่นำมาใช้ในเรื่องราวของแต่ละก๊ก ตั้งแต่ก๊กเว่ย, ก๊กซือ, ไปจนถึงก๊กอู๋ แต่ละก๊กใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันอย่างไร? และอะไรคือบทเรียนที่เราสามารถนำไปใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ในโลกยุคปัจจุบัน? เราจะทำการวิเคราะห์ลึกซึ้งถึงแนวทางในการตัดสินใจ, การจัดการความขัดแย้ง, และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมทั้งการสำรวจความสำคัญของการมองไปข้างหน้าและการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับอนาคต ติดตามตอนต่อไปเพื่อดำดิ่งลึกเข้าไปในโลกของการวางแผนกลยุทธ์ที่ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวในอดีต แต่ยังเป็นบทเรียนที่มีคุณค่าสำหรับผู้นำและนักวางแผนในยุคปัจจุบัน.