Day 20: 12:12

ก่อน COVID-19: การช้อปปิ้งในแคมเปญ 12:12 มักจะเน้นไปที่การขายออฟไลน์และโปรโมชั่นในห้างสรรพสินค้า ผู้คนมักจะออกไปช้อปปิ้งเพื่อเฉลิมฉลองและเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งแบบดั้งเดิมที่มีการตกแต่งและกิจกรรมต่างๆ ในห้างสรรพสินค้า

หลัง COVID-19: การระบาดใหญ่ได้เปลี่ยนแปลงวิถีการช้อปปิ้งไปอย่างมาก มีการเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากมีการกักตัวและข้อจำกัดในการเดินทาง แคมเปญ 12:12 ในช่วงนี้จึงมุ่งเน้นไปที่โปรโมชั่นออนไลน์ การจัดส่งที่รวดเร็ว และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสบการณ์การช้อปปิ้ง

แนวโน้มสำหรับปี 2023: คาดว่าจะเห็นการผสมผสานระหว่างการช้อปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์จะยังคงเป็นที่นิยม แต่ผู้คนอาจจะเริ่มกลับไปช้อปปิ้งที่ร้านค้าจริงเพื่อประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบสัมผัสสินค้า โปรโมชั่นอาจรวมทั้งส่วนลดออนไลน์และกิจกรรมพิเศษในร้านค้า นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีอย่างเช่น AR และ VR ในการช้อปปิ้งอาจจะเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สะท้อนถึงการปรับตัวของตลาดและผู้บริโภคต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

สินค้าที่ขายดีในช่วงแคมเปญ 12:12 มักจะมีความหลากหลายและขึ้นอยู่กับแนวโน้มและความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละปี อย่างไรก็ตาม สินค้าที่มักจะขายดีในช่วงนี้มักจะรวมถึง:

  1. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: สินค้าอย่างสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ มักจะมีความนิยมสูงเนื่องจากมีการให้ส่วนลดที่น่าดึงดูด
  2. แฟชั่นและเครื่องแต่งกาย: เสื้อผ้า, รองเท้า, และอุปกรณ์เสริมต่างๆ มักจะเป็นที่นิยมในช่วงนี้ โดยเฉพาะกับการเสนอส่วนลดพิเศษ
  3. สินค้าความงามและสุขภาพ: ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ, เครื่องสำอาง, และอุปกรณ์ดูแลสุขภาพมักจะมีความต้องการสูงในช่วงแคมเปญนี้
  4. ของใช้ในบ้านและอุปกรณ์ไลฟ์สไตล์: สินค้าเหล่านี้ เช่น เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน, และของใช้สำหรับครัวเรือน มักจะได้รับความนิยมในช่วงแคมเปญปลายปี
  5. ของเล่นและสินค้าสำหรับเด็ก: เนื่องจากช่วงเวลานี้ใกล้เคียงกับช่วงวันหยุดและเทศกาลปีใหม่ ของเล่นและสินค้าสำหรับเด็กจึงมักจะมีความต้องการสูง
  6. สินค้ากีฬาและกิจกรรมกลางแจ้ง: อุปกรณ์กีฬา, อุปกรณ์เดินป่า และสินค้าเกี่ยวกับกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ ก็มักจะเป็นที่นิยม

แต่ละประเภทสินค้าเหล่านี้อาจมีความนิยมแตกต่างกันไปในแต่ละปี และขึ้นอยู่กับสภาพตลาดและกลยุทธ์การตลาดของแต่ละค่าย

จากข้อมูลข้างต้น ขนาดคำสั่งซื้อเฉลี่ยของอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยในปี 2012 และ 2013 อยู่ที่ 200 บาทต่อรายการ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลในแต่ละเดือน จะพบว่าขนาดคำสั่งซื้อเฉลี่ยมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2013 แต่กลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปีเดียวกัน สาเหตุหลักที่เป็นไปได้อาจเป็นเพราะผู้บริโภคมีการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ตรุษจีน และสงกรานต์ ในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปี

โดยสรุป มูลค่าตลาดของอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2013 มีการเติบโตขึ้นจากปี 2012 ถึง 33.6% การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น การพัฒนาของเทคโนโลยี การเติบโตของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และความนิยมในการซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภคชาวไทย

อย่างไรก็ตาม ขนาดคำสั่งซื้อเฉลี่ยของอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

Leave a Reply